259 Views Report Error
เอ็ดดี้ (บรูซ วิลลิส) เจ้าพ่อมาเฟียวางแผนปล้นครั้งใหญ่ด้วยจับ คาเรน (แคลร์ ฟอร์ลานี) หัวขโมยสาวเพื่อดึงตัวแจ็ค (มาร์ค พอล กอสส์ลาร์) แฟนหนุ่มของคาเรนมาปล้นรถขนเพชรล้ำค่าแล้วนำมาไถ่ตัวเธอ แต่ทุกอย่างกลับผิดแผนเมื่อคาเรนและแจ็ครวมหัวหักหลังเอ็ดดี้ การไล่ล่าสุดเดือดโดยมีเพชรเป็นเดิมพันจึงอุบัติขึ้น
ถ้าพูดถึงในวงการจอเงินระดับฮอลลีวูด Max Adams ยังถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นกับเวทีระดับนี้ และนี่เป็นช่วงเวลาสำคัญกับการขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับเต็มตัว หลังจากเคยสร้างชื่อมากับงานแนว Action อย่าง Extractors (2015) และ Heist (2015) ในฐานะคนเขียนบทมาแล้ว ซึ่งการดึงรุ่นใหญ่อย่าง Bruce Willis ก็ทำให้คอหนังจินตนาการไปถึงพล็อตเรื่องได้กลายๆ ว่า Precious Cargo น่าจะออกมาหน้าตารสชาติหนังเป็นอย่างไรPrecious Cargo เป็นเรื่องราวของ Eddie (Bruce Willis) ที่พยายามหลอกใช้ Karen (Claire Forlani) ให้ดึงแฟนหนุ่มของเธอ Jack (Mark-Paul Gosselaar) มาช่วยทำภารกิจปล้นรถขนเพชรเพื่อแลกกับการไถ่ตัว Karen ให้เป็นอิสระ ซึ่งหนังมีจุดขายอยู่ที่ Jack และ Karen นั้นไม่ใช่โจรกระจอกที่จะมาจำนนกับเงื่อนไขกระโหลกกระลานี้ การหักหลังจึงเกิดขึ้น และเรื่องราวทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นนับจากนั้น แน่นอนว่ากับหนัง Action ที่ทุนสร้างไม่เยอะ ตัวหนังมักจะเดินเรื่องกระชับ ฉับไว พล็อตหลักของเรื่องนั้นตัวหนังก็ไม่ได้ปูแบ็คกราวน์อะไรมาก แต่ใช้ความขัดแย้งของตัวละครในการเดินเรื่องให้ตื่นเต้นน่าติดตามตั้งแต่แรก ซึ่งระหว่างการเปิดฉากไล่ล่าตั้งแต่ 20 นาทีแรก คนดูก็สามารถรับรู้ได้ถึงไหวพริบ ความเชี่ยวชาญในการต่อสู้และหลบหนี รวมทั้งสัญชาติญาณความเป็นอาชญากรของ Jack และ Karen ได้ทันที ในช่วงแรกหนังพยายามจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ในแบบตบจูบ (อารมณ์ประมาณฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาพบกัน) ประกอบกับบทบาทของ Eddie ที่แม้จะให้น้ำหนักบทบาทน้อยไปนิด แต่เสน่ห์ทางการแสดงของ Bruce Willis ในบทบาทขรึมๆ โหดๆ ดูโรคจิต ก็ยังคงเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคย และช่วยยกระดับตัวหนังได้พอตัว